จะกู้เพื่อซื้อบ้าน

แล้วตัวเองต้องเตรียมเงินเก็บไว้ด้วยหรือไม่

          เชื่อว่าอาจมีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเอง  แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นดังหวัง เนื่องจากไม่มีเงินเก็บมากพอมาจ่ายส่วนต่างที่เหลือจากวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติจากธนาคาร ซึ่งสถาบันการเงินต่าง  ๆ  จะให้วงเงินสินเชื่อตั้งแต่  70-100%  ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินโดยพิจารณาจากที่มาของรายได้  รวมถึงรายได้สุทธิของผู้กู้ประกอบกันไปด้วย  และนอกจากส่วนต่างข้างต้นแล้ว  ผู้ขอกู้ยังจำเป็นต้องเตรียมเงินไว้สำหรับค่าใช้จ่ายอื่น  ๆ  อีก อาทิ

-          ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้  0.1%  ของวงเงินอนุมัติ  (เฉพาะวงเงินตั้งแต่  500.001  บาทขึ้นไป)

-          ค่าประเมินราคา  1,700  สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน  500,000  บาท  ค่าประเมินราคา 2,500  บาท  สำหรับวงเงินกู้  500,001-3,000,0000  บาท  และค่าประเมินราคา 2,800  บาท  สำหรับวงเงินกู้  3,000,001  บาทขึ้นไป

-          ค่าจดจำนอง  1%  ของวงเงินกู้  ชำระให้กับกรรมที่ดิน

-          ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์  2%  ของราคาประเมินโดยกรมที่ดิน

          ค่าใช่จ่ายเหล่านี้ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ผู้ต้องการมีบ้านจำเป็นต้องเก็บเงินออมเตรียมไว้ให้เพียงพอเพราะเมื่อถึงเวลาที่ต้องการเริ่มซื้อบ้านแล้ว  จะได้ไม่ต้องหยิบยืมเงินจากส่วนอื่น จนทำให้เกิดภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น  แต่แม้ว่าจะต้องเตรียมเงินเก็บไว้พอสมควร  และจะต้องมีภาระหนี้สินจากการกู้ยืมเงิน  อย่างไรก็ตาม  การซื้อบ้านถือเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า เพราะนอกจากจะทำให้ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเพื่อความมั่นคงในชีวิตซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยมนุษย์ทุกคน  ดอกเบี้ยจากการกู้ยืมซื้อบ้านยังสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ตามจริง  สูงสุดไม่เกิน  100,000  บาทอีกด้วย

          และเพื่อเป็นการส่งเสริมนโยบายการออมภาคประชาชน  ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในอนาคต  ในช่วงต้นปี 2558 ธอส.จึงได้จัดทำผลิตภัณฑ์เงินฝากใหม่ที่มอบอัตราดอกเบี้ยสูงพิเศษมาเป็นทางเลือกให้แก่ผู้รักการออม  ดังนี้

1.   เงินฝากประจำ  14   เดือนแบบขั้นบันได  (Step Up)  มอบดอกเบี้ยสูงสุดแบบขั้นบันได  โดนเดือนที่  1-5  อัตราดอกเบี้ย  2.375%  ต่อปี  เดือนที่  6-10  อัตราดอกเบี้ย  3.0%  ต่อปี  เดือนที่  11-12  อัตราดอกเบี้ย  3.750%  ต่อปี  และเดือนที่ 13-14  รับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดถึง  4.0%  ต่อปี  (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย  3.027%  ต่อปี) ธนาคารจ่ายดอกเบี้ยรายเดือนนับจากวันที่ฝาก  เงื่อนไขเปิดบัญชีครั้งแรกและจำนวนเงินฝากครั้งต่อไปขั้นต่ำรายการละ  10,000  บาท  เปิดบัญชีได้ตั้งแต่วันที่  16 มกราคม-28  กุมภาพันธ์  2558  เท่านั้น

2.   เงินฝากประจำ  7  เดือน  มอบดอกเบี้ยให้แก่ผู้เปิดบัญชีสูงสุดถึง  2.77%   ต่อปี ธนาคารจ่ายดอกเบี้ยรายเดือนนับจากวันที่ฝาก  เงื่อนไขเปิดบัญชีครั้งแรกและจำนวนเงินฝากครั้งต่อไปขั้นต่ำรายการละ  10,000  บาท  เปิดบัญชีได้ตั้งแต่วันที่  26 มกราคม-15  มีนาคม  2558  เท่านั้น

          และสำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านปัจจุบัน  ธอส.  ยังได้จัดทำผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษ เพื่อมอบให้เป็นการเฉพาะกับ  เงินฝากออมทรัพย์  Happy Home  ให้ดอกเบี้ยสูงติดจรวดถึง  2.75%  ต่อปี  สำหรับยอดเงินฝากคงเหลือไม่เกิน  1,000,000  บาท  เงื่อนไขเพียงฝากครั้งแรกขั้นต่ำ  500  บาทขึ้นไป  รับฝาก  1  รายต่อปี  1  บัญชี  สามารถใช้เป็นบัญชีเงินฝากเพื่อชำระงวดเงินกู้  และชำระค่าสาธารณูปโภคได้อีกด้วย  กรณีดอกเบี้ยรับไม่เกิน  20,000  บาทต่อปี  ไม่ต้องเสียภาษี  นับเป็นผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ปรกติ  (อัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ปกติของ  ธอส.เท่ากับ 0.75-1.00% ต่อปี)  เปิดบัญชีได้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558

           สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  ธนาคารสงเคราะห์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์  (CallCenter)  โทร.0-2645-9000  หรือ www.ghbank.co.th

                                                                        ที่มาจาก  ตลาดบ้าน

http://www.homed4u.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539363006

https://www.facebook.com/profile.php?id=100009945105162