เตรียมความพร้อมก่อนขายบ้าน
ถ้าช่วงนี้ไม่พูดถึงเรื่องภาวะเศรษฐกิจก็คงจะตกยุคไม่น้อยเลยนะครับ จากที่มองกันว่าครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นมาบ้างก็มองเห็นว่าพอนะมีวี่แวว
แต่ไตรมาสนี้กลับมีปัจจัยลบมากดไม่ให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นมาง่ายๆ หลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันรวมทั้งไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว
“บ้านพร้อมขายก็คือบ้านพร้อมอยู่นั่นแหละครับลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านส่วนใหญ่ก็ต้องการซื้อบ้านที่พร้อมใช้งาน”
จากภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นเช่นนี้ยิ่งส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ อาจต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวนานยิ่งขึ้ง คราวนี้แหละครับหลายๆ คนคงต้องหันมารัดเข็มขัดกันมากขึ้น อะไรที่ไม่จำเป็นก็ลดการซื้อการจ่ายให้เหลือเฉพาะสิ่งที่จำเป็นจริงๆ อะไรที่มีมากเกินไปหรือเกินกำลังในการดูแลรักษาก็จะตัดออกไป
เช่นเดียวกับที่อยู่อาศัยนะครับ ในยุคนี้หากใครมีบ้านเกินหนึ่งหลังถ้าไม่ปล่อยให้เช่าแล้วล่ะก็คงต้องหาคนมาซื้อจะดีกว่า เพราะถ้าบ้านที่ไม่มีคนอยู่ปล่อยไปนานวันก็ยิ่งโทรม และถ้ามีภาระการผ่อนชำระอีกด้วยจะยิ่งสร้างความเดือนร้อนเพิ่มขึ้นในยุคเศรษฐกิจขาลงเช่นนี้ ฉะนั้นจึงมีลูกค้าผมหลายท่านจึงนำบ้านที่ไม่ได้อยู่มาปล่อยขาย
ฉบับนี้ผมจึงมีวิธีเตรียมความพร้อมในการขายบ้าน เพื่อจะให้บ้านที่ต้องการขายนั้นได้ราคาดีและขายได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบ้านที่ติดภาระการผ่อนชำระกับสถาบันการเงินอยู่ด้วยล่ะก็ ยิ่งเวลานานไปก็จะยิ่งทำให้ลูกค้าต้องแบกภาระดอกเบี้ยมากขึ้นไปอีก
แต่ก็ยังมีลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งครับที่เคยขายบ้านหลังเล็กไปซื้อบ้านหลังใหญ่ขึ้น เนื่องจากต้องการขยายครอบครัวหรือความจำเป็นใดๆ ก็ตาม แต่เมื่อมาเจอภาวะเศรษฐกิจแบบนี้จึงไม่สามารถผ่อนชำระได้ตามกำหนด จึงต้องการขายบ้านเพื่อหาซื้อบ้านใหม่ที่เหมาะสมกับสถานะทางการเงินในช่วงเวลานี้
ในการเตรียมความพร้อมนั้นผมจะกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของบ้านที่ต้องการขายเท่านั้นนะครับ เริ่มต้นก็ต้องพิจารณาว่าบ้านของท่านอยู่ในสภาพพร้อมขายหรือไม่
คำว่าบ้านพร้อมขายก็คือบ้านพร้อมอยู่นั่นแหละครับ ลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านพร้อมอยู่ใหญ่ก็จะต้องการซื้อบ้านที่พร้อมใช้งานได้ทันที
ถ้าบ้านที่มีผู้อยู่อาศัยตลอดก็จะไม่อยู่ในสภาพที่เรียกว่า “โทรม” สักเท่าไหร่ คือต้องดูทั้งภายนอกและภายในครับ เมื่อพิจารณาว่าบ้านอยู่ในสภาพใดก็เริ่มตกแต่งให้สวยงามเป็นที่ดึงดูดใจสำหรับลูกค้าผู้ซื้อทึ่จะเข้ามาชมครับ
เริ่มจารกภายนอก ถ้าเป็นบ้านเดี่ยวมีพื้นที่หน่อยก็ควรจัดภายนอกบ้านให้อยู่ในสภาพดี เช่น สวน ต้นไม้ ควรตัดแต่งต้นไม้รดน้ำให้ดูชุมชื้นเสมอก่อนการประกาศขายประมาณ 1 สัปดาห์ ต่อไปดูสีภายนอกบ้านควรอยู่ในสภาพดี ถ้าจะดียิ่งขึ้นควรจะทาสีใหม่ครับเพื่อให้บ้านดูน่าอยู่มากยิ่งขึ้น แต่อาจจะใช้งบประมาณมากสักหน่อย แต่ก็สมควรจะทำครับถ้าบ้านอยู่ในสภาพทรุดโทรมมาก
จากนั้นเริ่มมาดูภายในบ้าน ถ้ามีส่วนใดชำรุดก็ซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดี เช่น หลังคา ไฟฟ้า ประปา เพื่อจะได้ไม่ถูกลดราคาเมื่อลูกค้าเข้ามาชม ต่อจากนั้นมองไปถึงเฟอร์นิเจอร์ครับ ถ้าบ้านที่ท่านขายนั้นขายพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ก็ควรจัดให้อยู่ในสภาพดี ถ้าชำรุดก็ทำการซ่อมให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย แต่ถ้าไม่ได้ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ก็ควรขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ออก เพื่อจะได้ไม่สร้างความเข้าใจผิดกับลูกค้าผู้ซื้อเมื่อเข้ามาชมบ้าน
เมื่อปรับปรุงบ้านเสร็จถ้าไม่ชำนาญในการขายบ้านนัก ก็แนะนำให้หาผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์มาช่วยดูแลจะทำให้การซื้อขายง่ายยิ่งขึ้น และถ้าบ้านได้รับการปรับปรุงก่อนด้วยแล้วจะยิ่งใช้เวลาในการขายน้อยลง และจะทำให้มูลค่าบ้านนั้นเพิ่มขึ้นอีกด้วย
http://www.homed4u.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539363006
https://www.facebook.com/profile.php?id=100009945105162