“ฟาร์มมิ่ง (Farming)” เคล็ดวิธีควานหาบ้านดีเพื่อการลงทุน
คนทั่วไปมักรับรู้กันเพียงว่าขั้นตอนสำคัญที่สุดของการลงทุนในบ้านและที่ดินก็คือการเลือกทำเลเท่านั้น แต่เมื่อเลือกทำเลที่สนใจได้แล้วยังมีภารกิจอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน นั่นคือการควานหาหรือตามล่าหาอสังหาริมทรัพย์ดีๆ ในพื้นที่ออกมาให้ได้
ซึ่งการควานหานี้อาจทำได้ในหลายลักษณะมีตั้งแต่วิธีง่ายไปจนถึงยาก แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเลือกวิธีการแบบไหนก็ตาม สิ่งจำเป็นที่ผู้ลงทุนจะละเยไม่ได้เป็นอันขาดก็คือการต้องลงพื้นที่สำรวจอสังหาริมทรัพย์ด้วยตนเองจึงจะทำให้ประสบความสำเร็จได้
มืออาชีพในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มีเทคนิคควานหาอสังหาริมทรัพย์หรือบ้านในพื้นที่รูปแบบหนึ่งที่จัดว่าทำได้ง่ายแต่ให้ผลเป็นที่น่าพอใจมาก เทคนิคที่ว่านั้นก็คือ “ฟาร์มมิ่ง (Farming)”
ฟาร์มมิ่ง (Farming) หรือแปลเป็นภาษาไทยง่ายๆ ก็คือการทำฟาร์มเพราะเลี้ยงขึ้นมาเอง เป็นเทคนิคการลงทุนแบบหนึ่งที่คุ้นเคยและนิยมใช้กันในหมู่นายหน้าอสังหาริมทรัพย์มาก
แนวคิดหลักก็คือแทนที่จะควานหาอสังหาริมทรัพย์ในทุกพื้นที่แบบสะเปะสะปะ แต่จะใช้วิธีเลือกความหาในพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น โดยจะเน้นเลือกทำในทำเลที่ดีที่สุดเป็นหลัก ซึ่งเชื่อกันว่าวิธีการแบบนี้จะช่วยให้การควานหาอสังหาริมทรัพย์ลงทุนทำได้ง่ายและเป็นไปโดยมีประสิทธิภาพมากที่สุด
เช่น อาจกำหนดพื้นที่ทำเลลงทุนไว้จำกัดเพียง 4 ทำเลเท่านั้น จากนั้นก็จะทำการเฝ้าสังเกตและดูแลติดตามความเคลื่อนไหวทุกอย่างก้าวในพื้นที่เหล่านั้นอย่างเอาใจใส่ โดยทำทุกวันอย่างสม่ำเสมอไม่ต่างอะไรจากคนทำฟาร์มที่ต้องคอยดูแลความเป็นไปในพื้นที่ฟาร์มของตัวเองอย่างไรอย่างนั้น
ซึ่งการกระทำในลักษณะเช่นนี้จะทำให้เมื่อทำไประยะหนึ่งแล้ว ผู้ทำฟาร์มมิ่งจะเกิดความเชี่ยวชาญเป็นการเฉพาะเจาะจงกับทำเลในการทำฟาร์มขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
นั่นคือสามารถรู้หรือจับความเคลื่อนไหวของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ฟาร์มมิ่งว่าปัจจุบันเป็นเช่นไรดีขึ้นหรือเลวลงเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา ราคาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แต่ละประเภทในพื้นที่แต่ละหลังแต่ละขนาดซื้อขายกันที่ราคาเท่าไหร่ และอสังหาริมทรัพย์ที่ขายกันไปแล้วส่วนใหญ่คนที่เข้ามาซื้อเป็นใคร
ข้อมูลที่ได้จาการทำฟาร์มมิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการวางแผนและกำหนดจังหวะโอกาสในการเข้าลงทุนว่า ปัจจุบันอสังหาริมทรัพย์ประเภทไหนน่าสนใจมากที่สุด ควรจะซื้อในช่วงไหน ราคาเสนอซื้อเป็นเท่าไหร่ และอสังหาริมทรัพย์ตรงส่วนไหนของพื้นที่น่าสนใจที่สุด
เมื่อสามารถระบุเป้าสังหารมิทรัพย์ลงทุนได้อย่างชัดเจนแล้วขั้นต่อมาก็คือการใช้กลยุทธ์การค้นหาอสังหาริมทรัพย์ลักษณะต่างๆ เข้ามาช่วย เพื่อให้การค้นหาอสังหาริมทรัพย์ประสบความสำเร็จตามที่ต้องการให้ได้
อาจกล่าวได้ว่ากุญแจความสำเร็จสำคัญของการทำฟาร์มมิ่งขึ้นอยู่กับการเลือกพื้นที่ที่จะทำฟาร์มมิ่งเป็นสำคัญ ทั้งนี้โดยทั่วไปแล้วพื้นที่ที่เหมาะสมกับการทำฟาร์มมิ่งควรเป็นทำเลที่เพิ่งมีสัญญาณในการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นปรากฏให้เห็น
เพราะการเข้าซื้อสังหารมิทรัพย์ในทำเลแบบนี้จะช่วยให้สามารถซื้อได้ในราคาถูกและต้นทุนต่ำเป็นพิเศษ ทำให้มีโอกาสทำกำไรอย่างเป็นกอบเป็นกำได้ในอนาคตขณะที่การเข้าไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ในทำเลที่พัฒนาเต็มที่แล้วแม้จะเป็นช่วงที่เหมาะลงทุนก็ตาม แต่ก็จะหาซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ลำบาก และราคาที่ซื้อจะค่อนข้างสูงทำให้ทำกำไนได้ไม่มาก
ทั้งนี้ขอให้พึงสังวรไว้เสมอว่าความคุ้นเคยและความเชี่ยวชาญที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติจาการทำฟาร์มมิ่งนี้ จะเป็นส่วนเสริมสำคัญที่จะช่วยให้สามารถมองเห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงได้ดีกว่าคนทั่วไปและสามารถมองเห็นแนวโน้มความเป็นไปของอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ได้ชัดเจนมากกว่าที่คนอื่นเห็น
ในแง่การลงทุนแล้วมีคำแนะนำสำหรับมือใหม่ในการทำฟาร์มมิ่งให้ประสบความสำเร็จ หรืออาจเรียกว่าเป็นกฎพื้นฐาน 4 ข้อของการทำฟาร์มมิ่งดังนี้
1. ต้องทำฟาร์มมิ่งอย่างมีวินัย ทั้งนี้เมื่อเลือกพื้นที่ในการทำฟาร์มมิ่งแล้วให้ตระหนักอยู่เสมอว่าภารกิจสำคัญก็
คือการติดตาม สอดส่องและเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ทุกย่างก้าวซึ่งต้องทำตลอดทุกวันทุกเวลา จะหยุด ขาด หลุดหรือตกหล่นไม่ได้เป็นอันขาด ยิ่งรู่ซึ้งและรู้สึกมากเท่าไหร่ถือว่ายิ่งดีต่อผู้ทำฟาร์มมิ่งมากเท่านั้น
2. ต้องทราบและกำหนดอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการซื้อว่าอยู่ในวงเงินเท่าไหร่ให้ชัดเจน เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาการ
ค้นหาในทำเลหรือพื้นที่ที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่สูงกว่าที่ต้องการหลายๆ เท่า
3. ต้องแน่ใจและตรวจเช็คอย่างรอบคอบว่าพื้นที่ในทำเลนั้นดีจริงๆ ให้ลองถามคำถามเหล่านี้ก่อนว่าทำเลที่เลือกทำ
ฟาร์มมิ่งนี้ดีจริง เช่น อยู่แล้วมีความสุข สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย เด็กสามารถเดินไปโรงเรียนได้หรือไม่ มีร้านค้าต่างๆ อยู่ใกล้หรือเปล่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่กำหนดความน่าสนใจของแต่ละละแวกที่จะมองข้ามไม่ได้เป็นอันขาด
4. ใช้กลยุทธ์การค้นหาไปยังกลุ่มเป้าหมาย เช่น ถ้าคิดจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ให้เช่าในบริเวณมหาวิทยาลัยก็ควรแจก
ใบปลิวไปที่สโมสรนักศึกษาต่างๆ ในมหาวิทยาลัย แต่ถ้าต้องการได้อสังหาริมทรัพย์เก่ามาซ่อมแซมในทำเลที่มีศักยภาพก็ควรพุ่งเป้าไปที่ร้านค้าด้านหน้าหรือทำเลที่ค้าขายได้เป็นสำคัญ หรืออาจมีการแจกใบปลิวและใบประกาศบอก หรือแจ้งให้คนแถบนั้นทราบว่าเรากำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์เก่าเพื่อมาซ่อมแซม
http://www.homed4u.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539363006
https://www.facebook.com/profile.php?id=100009945105162